Sunday, October 08, 2006

เรื่องย่อพระอภัยมณี(9)

นางละเวงแค้นนางสุวรรณมาลีให้ยกทัพไปล้อมโจมตีทัพของนางสุวรรณมาลีในคืนนั้นทันที ด้านกองทัพเมืองผลึก รมจักร และเมืองการะเวกได้ทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ร่ายเวทเป็นฝนตกลงมาเปียก เพื่อให้คงทนศาสตราวุธทำการรบแบบตะลุมบอนอยู่ถึงเช้า พอแดดออกอ่อนๆเวทมนต์จึงได้คลาย นางเสาวคนธ์ยิง ฟันเท่าไรๆไอ้ย่องตอดก็ไม่ตาย จึงไปหาทิศาปาโมกโลกเชษฐ์เสกสายสิญจน์สามเกลียวและหวายอาคมให้ นางเสาวคนธ์ออกรบได้ทีเอาสายสิญจน์สวมคอและตีด้วยเรียวหวาย เจ้าย่องตอดก็สิ้นฤทธิ์ถูกจับมัดไว้ในค่าย หัสไชย เสาวคนธ์และสามพราหมณ์รบกับกองทัพเมืองลังกาเป็นสามารถ นางละเวงถูกนางสุวรรณมาลีที่กำลังโมโหหึงยิงด้วยเกาทัณฑ์เฉี่ยวนมเล็กน้อยเพราะเกราะกีดขีดเชือดพอเลือดไหล นางรำภาสะหรีเข้ามาช่วย พอทัพของสามพราหมณ์ เสาวคนธ์ และหัสไชย เข้ามาสมทบกับทัพของนางสุวรรณมาลี ก็ต้อนตีทัพลังกาแตกกระจายไปเมื่อเวลาใกล้ค่ำ พระสังฆราชบาทหลวงเห็นนางละเวงยกทัพออกรบ ค่ำแล้วยังไม่กลับมาก็เป็นห่วงเกณฑ์ชาวบ้านได้ห้าพันจะยกออกไปช่วย ฝ่ายพระปีโปมีหนังสือลับมาถึงนางสุลาลีวัน บอกว่าถ้าทัพลังกาออกรบโดยลำพังจะพ่ายแพ้ ให้อ้อนวอนฝ่ายพระอภัยมณีในเมืองลังกาออกรบช่วยด้วยจึงจะชนะ นางสุลาลีวันจึงกราบทูลขอให้พระอภัยมณีช่วย พระอภัยมณีร้อนพระทัยที่นางละเวงหายไปจึงเรียกศรีสุวรรณ สินสมุท สุดสาครยกพลห้าหมื่นแยกย้ายกันไปตามหานางละเวง สาม –พราหมณ์ที่ไล่ติดตามทัพของนางละเวง ถูกทัพของบาทหลวงเข้าป้องกันลูกสาวเจ้าลังกาหนีเข้าป่าไปได้ พระอภัยมณีเที่ยวตามหาทัพของนางละเวงไม่พบจึงเป่าปีเรียกทัพ นางละเวงได้ยินเสียงปี่ก็รู้ว่าพระอภัยมณีเรียกหา จึงปรึกษากับบาทหลวงว่าจะไปพบพระอภัยมณีจะดีหรือไม่ ตอนแรกๆบาทหลวงก็บริภาษว่า ก็รีบไปพบผัวซีจะได้ไปนอนหาความสุข แต่สุดท้ายบาทหลวงก็บอกอุบายให้นางละเวงกับพวกบุตรีเลี้ยงรีบไปพบสามีแล้วยุให้กำจัดศึกเมืองผลึก รมจักรและเมืองการะเวก แล้วบาทหลวงบอกว่าหมดธุระแล้วจึงลาจากไป นางละเวงยุให้พระอภัยมณีเป่าปี่สะกดทัพ แล้วลอบสั่งทหารเตรียมดินปืนทั้งฟืนไฟคิดอุบายจะเผาทัพเมื่อพวกเมืองผลึกหลับ ฝ่ายท้าวทศวงศ์ นางสุวรรณมาลี และองค์อื่นๆเห็นว่าถ้าพระอภัยมณีออกรบก็จะเป็นภัยร้ายแรงมาก จึงพากันไปปรึกษาทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ ได้ความว่าถ้าพระอภัยมณีเป่าปี่ให้เอาขี้ผึ้งปิดหูเสีย ด้วยที่พระอภัยมณีและนางละเวงมีทหารมากเกรงว่าฝ่ายเมืองผลึกกับพวกจะต่อสู้ต้านทานไม่ไหว ทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์จึงทำพิธีจุดเทียนชัยเชิญพระโยคีเกาะแก้วพิสดารมาช่วย ฉะนั้นขออย่าเพิ่งออกรบขอให้อดทนนิ่งไว้ก่อน ถ้าพระอภัยมณีสั่งให้ทหารออกรบค่อยปล่อยนกเสกการวิกการเวกออกจิกตีผี ทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ยังเสกสายสิญจน์ให้ทหารคล้องคออยู่ยงคงกระพันและแคล้วคลาดศาสตราด้วย เมื่อกองทัพทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันศึกรบยังไม่เกิด เกิดแต่ศึกปาก นางสุวรรณมาลีเชิญพระอภัยมณีกลับเมืองผลึกจึงปะทะคารมกับนางละเวง นางละเวงยุให้พระอภัยมณีเป่าปี่ ขณะที่พระอภัยมณีจะเป่าปี่ นางสร้อยสุวรรณนางจันทรสุดาบุตรีพระอภัยมณีที่อยู่ข้างนางสุวรรณมาลี ก็ปล่อยนกการวิกการเวกเข้าจิกตีจนปี่พระอภัยมณีพลัดตกลง นางละเวงก็ขับทหารเข้ารุกรบในทันที ทั้งสองฝ่ายรบกันเป็นสามารถตั้งแต่เช้าจนเย็น บาทหลวงช่วยยิงปืนใหญ่ทลายค่ายพังไปหลายแห่ง การรบสู้ยังติดพันกันอย่างรุนแรงนั้น ฟ้าก็ฟาดเปรี้ยงเปรี้ยงลงมา ฝนตกมืดคลุ้มมองไปข้างไหนก็มองไม่เห็นเหมือนนัยตาบอด ทหารทั้งสองฝ่ายหนาวเห็นกองไฟข้างภูเขา ต่างก็เข้าไปผิงไฟเพื่อคลายหนาวโดยไม่มีใครคิดว่าเป็นฝ่ายใด บรรดาผู้ที่ถูกหยูกยาฝนก็ชะล้างเสื่อมหายไปหมดสิ้น ในกองไฟปรากฎมีพระฤาษีกับทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ พระฤาษีเทศน์โปรดชี้ให้เห็นความจริงว่าทุกฝ่ายต่างก็ทำผิดด้วยกัน จึงขอให้เลิกรบและหันกลับมาสามัคคีกันฉันท์ญาติสืบเผ่าพงศ์กันต่อไป และให้แต่ละฝ่ายกระทำสัตย์ปฏิญาณว่าจะรักกัน ซึ่งทุกฝ่ายก็ยอมทำตามทุกอย่าง ทิศาปาโมกโลกเชษฐ์แนะเหล่ากษัตริย์ให้พากันไปอ่านปริศนาพระฤาษีที่แผ่นหินหน้าเชิงเขา และหยิบเอาไม้เท้าที่พระฤาษีฝากไว้มาคืนให้สุดสาคร
นางละเวงชวนไปดูสวนเพชร พระอภัยมณีชวนไปเมืองรมจักรเพื่ออภิเสกสินสมุทกับนางอรุณรัศมี และไปเมืองการะเวกอภิเสกสุดสาครกับนางเสาวคนธ์ มีพระประสงค์จะให้นางละเวงไปด้วย แต่ไม่มีใครรักษาเมืองลังกา นางละเวงจึงทูลว่าถ้าได้ฤกษ์ดีจะทำการวิวาห์เมื่อใดก็ให้บอกมาจะตามไป และถ้าเมืองลังกาอยู่ดีไม่มีภัยจะตามไปอยู่กับนางสุวรรณมาลี แต่ก็ขัดกับธรรมเนียมฝรั่งที่ต้องคอยดูแลหลุมศพของบรรพบุรุษมิฉะนั้นคนจะไม่นับถือและอาจจะเกิดการกบถขึ้นได้ ฝ่ายนางเสาวคนธ์กับนางอรุณรัศมีเสียใจที่สุดสาครกับสินสมุทมามีเมียฝรั่งกลัวว่าตนจะเป็นเมียน้อย จึงสาบานกันว่าจะไม่มีผัว พอรุ่งขึ้นนางละเวงพากษัตริย์ทั้งหมดไปชมสวนเพชร และออกปากอนุญาตว่าใครอยากได้ก็ให้เก็บไปได้ แต่นางเสาวคนธ์ได้แต่ดู จนนางละเวงสงสัยถามว่าไม่อยากได้เพชรนิลหรือ? นางเสาวคนธ์จึงออกปากขอโคตรเพชร นางละเวงก็อนุญาต พอนางเสาวคนธ์ถอนโคตรเพชรก็เกิดอาเพทเหมือนแผ่นดินไหว นางละเวงจึงถามพระอภัยมณีว่าจะดีร้ายประการใด พระอภัยมณีไม่รู้ตำราก็ตรัสบอกไม่เป็นไร เป็นเกียรติยศที่ได้มาชมสวนเพชรในครั้งนี้ นางละเวงต้อนรับขับสู้อย่างดียิ่งทุกๆอย่างเพื่อให้กษัตริย์ทั้งหลายเป็นสุขสนุกสบาย นางเสาวคนธ์ลากลับเมืองการะเวก สุดสาครลานางสุลาลีวันทรงม้านิลมังกรติดตามไปขอคืนดีกับนางเสาวคนธ์ นางเสาวคนธ์ก็ไม่ยอมดีด้วย ด้านนางละเวงยังสงสัยอาเพทแผ่นดินไหวตอนนางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชรจึงให้รำภาสะหรีไปถามบาทหลวง บาทหลวงทำนายตามคัมภีร์ไตรดายุคว่านางละเวงให้ของสำคัญของเมืองลังกาแก่คนอื่นไป แต่ลูกของนางละเวงจะตามเอาคืนมาได้ นางละเวงจึงรู้ว่าได้กระทำผิด นางละเวงเล่าเรื่องดินถนันแล้วแบ่งให้นางสร้อยสุวรรณ นางจันทร์สุดาและนางสุวรรณมาลีกิน

No comments: