Sunday, October 08, 2006

เรื่องย่อพระอภัยมณี(13)

นางสุวรรณมาลีรีบทำสารไปทูลพระอภัยมณีที่กรุงรัตนาทางหนึ่ง อีกทางหนึ่งให้จัดสิ่งของสิบอย่างพร้อมทำสารไปให้นางละเวงเมืองลังกา แต่สารของนางสุวรรณมาลีถูกพระมังคลายึดไว้ไม่ถึงนางละเวง
พระมังคลาไม่พอใจสารของนางสุวรรณมาลี และคาดการศึกว่าถ้าพระอภัยมณี ศรีสุวรรณ และสินสมุทกลับมา เมืองผลึกกับเมืองรมจักรต้องยกมารบกับเมืองลังกาอย่างแน่นอน จึงต้องชิงยกไปจับนางสุวรรณมาลีและพงศ์พันธุ์เมืองรมจักรมาเป็นตัวประกันก่อน จึงให้วายุพัฒน์และหัสกันยกไปตีทั้งสองเมือง วายุพัฒน์เอาเรือทูตเมืองผลึกบังหน้า เพื่อให้พวกทหารเมืองผลึกเข้าใว่าเป็นเรือพวกเดียวกัน ทำให้กองทัพใหญ่เมืองลังกาเข้าถึงตัวเมืองผลึกได้ทันที เที่ยวจุดไฟเผาเมือง แล้วแอบอ้างรับสั่งว่านางละเวงให้มารับนางสุวรรณมาลีและบุตรีไปเมืองลังกา และที่ยกมารบนั้นเป็นพวกท้าวเจ้าละมานที่แค้นเคืองมาก่อนซึ่งนางสุวรรณมาลีก็รู้ทัน แต่ก็จำใจให้เขาคุมตัวไป ฝ่ายวายุพัฒน์ และหัสกันเมื่อได้ตัวนางสุวรรณมาลีกับธิดาแล้ว ก็เข้าปล้นเมืองกวาดต้อนเอาผู้คนและข้าวของ ทุบ เผาทำลายจนพอใจแล้วจึงล่องเรือกลับเมืองลังกา
พระมังคลาดีพระทัยที่พระนัดดาชนะศึก จึงให้บำเหน็จรางวัลทหาร ส่วนนางสุวรรณมาลีกับบุตรีให้เอาไปควบคุมไว้ที่ด่านดงตาล พวกเชลยชายเมืองผลึกเอาไช้ใช้ทำนา ผู้หญิงใช้เย็บผ้าเย็บหมวกแจกทหาร ฝ่ายวลายุดายกทัพปลอมเป็นท้าวอุเทนไปรบเมืองรมจักร จับท้าวทศวงศ์ พระมเหสีกับนางกำนัล ฝ่ายบุตรชายสามพราหมณ์คือ ยุขันบุตรของสานนกับนางอุบล เก่งเช่นเดียวกันกันบิดา มะหุด บุตรวิเชียรเก่งทางยิงธนู มังกร บุตรของโมราเก่งทางเสกเรือกล และบุตรของนางศรีสุดากับศรีสุวรรณนามพระกฤษณา ทั้งสี่คนเป็นเพื่อนรักใคร่กัน ต่างคนต่างก็เก่งกันคนละอย่าง บิดาให้เป็นผู้รักษาเมือง วันนั้นฝ่ายลังกายิงปืนควันคลุ้มจนมองไม่เห็นทาง พอรุ่งเช้าเข้าเมืองจึงรู้ว่า
พวกข้าศึกจับท้าวทศวงค์ พระมเหสีกับเหล่านางกำนัลลงเรือหนีไปแล้ว ก็พากันรีบยกตามไป ฝ่ายสามพราหมณ์พ่อพอรู้ข่าวก็รีบลงเรือติดตามไปอย่างรวดเร็ว สิบห้าวันทัพของพระกฤษณากับบุตรสามพราหมณ์ก็ตามไปทันทัพของวลายุดา เกิดสู้รบกัน แต่เรือและทหารทางฝ่ายพระกฤษณามีน้อยไม่สามารถจะเอาชนะได้ เรือของสามพราหมณ์พ่อไปถึง กองทัพเมืองลังกาก็หนีเข้าเมืองลังกาไปแล้ว จึงไม่สามารถจะทำอะไรได้ พระมังคลาดีใจที่ชนะศึกอีกครั้งหนึ่ง จึงให้บำเหน็จความชอบทหารตามเคย ส่วนท้าวทศวงศ์ พระมเหสี กับนางกำนัลให้เอาไปคุมตัวไว้ที่ด่านป่าตาล
สำหรับนางเสาวคนธ์และสุดสาครคอยฟังข่าวเมืองการะเวกอยู่ที่ด่านปากน้ำของเมืองวาหุโลม ครั้นรู้ว่าเมืองลังกายกทัพไปเผากรุงการะเวกและขุดโคตรเพชรไปได้ ก็เสียใจรู้สึกผิดที่ไม่ได้อยู่รักษาเมือง จึงทำสารแจ้งให้วาโหมยกทัพมาช่วยตีเมืองลังกา เมื่อวาโหมยกมาถึงด่านปากน้ำนางเสาวคนธ์สึกจากฤาษีแต่งเป็นพราหมณ์ เพราะต้องไปสงครามและแนะนำให้วาโหมรู้จักกับสุดสาคร ทัพของนางเสาวคนธ์ สุดสาคร และทัพของวาโหมพร้อมกันยกไปเมืองลังกาในเช้าของวันรุ่งขึ้น

No comments: