Sunday, October 08, 2006

เรื่องย่อพระอภัยมณี(4)

ฝ่ายทางเกาะแก้วพิสดารเมื่อพระอภัยมณีจากไปประมาณสิบเดือน นางเงือกก็คลอดลูกชายเป็นมนุษย์พระฤาษีตั้งชื่อให้ว่า สุดสาคร ด้วยนางเงือกมิใช่มนุษย์ไม่สามารถจะเลี้ยงลูกชายได้ ทำได้เพียงแต่ให้กินนม พระฤาษีจึงต้องเลี้ยงดูพระกุมารแทน สุดสาคร มีเชื้อเงือกปนมนุษย์จึงมีเรี่ยวแรงมากกว่าคนธรรมดามาก เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เวลาเพียงสิบเดือนเหมือนได้สิบขวบ ออกวิ่งเล่นจับสัตว์ทั้งบนบกและปลาในน้ำขี่เล่น พระเจ้าตาสอนให้อ่านเขียนเรียนวิทยาวิชาการต่างๆ รู้จักการต่อสู้เหมือนๆกับสินสมุททุกอย่าง จนอายุได้สามขวบ หนีพระเจ้าตาลงไปปล้ำปลาเล่นในทะเล ไปพบสัตว์ประหลาดหัวเป็นมังกร ตัวเป็นม้า หางเหมือนหางพระยานาค เกล็ดเป็นนิล ได้สู้กันจนค่ำก็ไม่แพ้ชนะกัน พระฤาษีเล็งญาณดูก็รู้ว่า มันคือม้ามังกร มีฤทธิ์มีกำลังมาก ควรจับไว้ให้สุดสาครขี่ไปติดตามพระบิดา จึงสอนมนต์และเสกหวายสวมศีรษะม้าให้ วันรุ่งขึ้นสุดสาครก็จับม้านิลมังกรได้ ขี่ขึ้นมาอวดพระเจ้าตา พระฤาษีจึงเล่าเรื่องพระอภัยมณีให้สุดสาครฟัง สุดสาครคิดถึงพระบิดามาก จึงขอให้พระเจ้าตาชี้ทางให้ พระฤาษีบอกว่าพระอภัยมณีอยู่ที่เมืองผลึก ต้องเดินทางไปทางทิศพายัพไกลมาก พระอภัยมณีมีอายุประมาณยี่สิบเก้าเข้าสามสิบปี พระเจ้าตาจึงให้ไม้เท้าไว้ป้องกันผีและอาวุธต่างๆ พร้อมทั้งให้ปิ่นทองเพื่อเป็นเครื่องหมายเมื่อพบกับพระอภัยมณีและญาติจะได้เห็นเป็นสำคัญ พระฤาษีบวชให้สุดสาครเป็นเณรน้อย แล้วให้ไปลานางเงือก แล้วขี่ม้ามังกรออกเดินทาง
ในระหว่างทางในกลางทะเลมีเมืองล่มจมอยู่มีแต่ผีดิบ พอสุดสาครผ่านเข้าไปใกล้ มันแกล้งทำเป็นบ้านเมืองทำมาค้าขายหลอกให้สุดสาครเข้าไป ครั้นพอเข้าไปกำแพงเมืองก็ตะแคงคว่ำ พวกผีดิบก็แห่กันมาจะจับสุดสาครกิน สุดสาครขี่ม้านิลมังกรต่อสู้ด้วยไม้เท้าพระเจ้าตาอยู่ถึงเจ็ดวัน จนอ่อนกำลังทั้งคนทั้งม้าจวนเจียนจะจมน้ำ จึงรำลึกถึงพระเจ้าตา พลันพระฤาษีขี่เมฆมาเสกคาถาไล่ผีร้ายไปหมด และเล่าเรื่องเมืองจมสมุทรให้ฟัง และบอกสุดสาครให้รีบไปจากที่นี่โดยเร็ว สุดสาครเดินทางไปได้เดือนเศษก็เข้าเขตที่มีคนอาศัย ได้พบกับ ชีเปลือย ไม่นุ่งผ้า หนวดถึงเข่า เคราถึงนม ผมถึงตีน สุดสาครคิดว่าเป็นผู้วิเศษ จึงถูกชีเปลือยหลอกไปเรียนมนต์ที่ปากเหว แล้วผลักสุดสาครตกลงไปก้นเหวกลับขึ้นมาไม่ได้ ชีเปลือยยึดเอาไม้เท้าและขี่ม้านิลมังกรเข้าไปในเมืองการะเวก หลอกชาวเมืองว่าจะมีผีห่าเข้าเมือง คนจะเจ็บป่วยล้มตาย ตนเป็นผู้วิเศษจะมาประพรมน้ำมนต์ให้พ้นภัย จนท้าวสุริโยทัยเจ้าเมืองให้นิมนต์เข้ามาในวัง พอชีเปลือยลงจากหลังม้า ม้านิลมังกรก็วิ่งหนีไปหาสุดสาครที่ยังตกอยู่ที่ก้นเหว ชีเปลือยเห็นม้าหนีไปก็ตกใจจนเป็นลม ทหารจึงเอาไปพักรักษาอยู่ในทิมข้างวัง
ส่วนสุดสาครถูกชีเปลือยผลักตกอยู่ที่ก้นเหวลึก ด้วยมนต์ทนคงทรงวิชาจึงไม่ตาย ได้สามคืนก็ฟื้น ที่เจ็บปวดก็หายด้วยเวทมนต์ของพระเจ้าตา แต่ขึ้นจากเหวไม่ได้ ม้านิลมังกรก็ช่วยไม่ได้ ได้แต่พร่ำรำพันถึงพระคุณของแม่เงือกและพระเจ้าตา จนได้ยินเสียงระฆังก็รู้ว่าพระเจ้าตามาช่วยอุ้มขึ้นไปบนยอดภูเขา แล้วพระเจ้าตาก็สอนว่าอย่าไว้ใจคนอื่น คนที่ไว้ใจได้ในโลกนี้มีแต่พ่อ – แม่ และตนเองเท่านั้น เกิดเป็นคนจะทำอะไรต้องคิดให้ดีเสียก่อน ใครรักเราจึงรักตอบ ใครชังเราก็ชังตอบ ทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ รู้อะไรสู้รู้วิชาไม่ได้ รู้รักษาตัวรอดได้จึงจะดี จงตามไปเอาไม้เท้าเสียก่อนจึงจะประเสริฐ
สุดสาครเก็บผลไม้กินเพื่อให้หายหิวแล้วขับม้าเข้าเมืองการะเวก ไปที่อยู่ของชีเปลือย เห็นไม้เท้าวางพิงไว้ข้างฝา จึงแอบย่องไปหยิบเอาไว้ ชีเปลือยเห็น สุดสาครก็กลัวมุดฝาออกวิ่งหนี เกิดการโกลาหลขึ้นในวังกว่าทหารจะจับชีเปลือยได้ ท้าวสุริโยทัยเมื่อทรงทราบความจริงจะให้ประหารชีเปลือยเสีย แต่สุดสาครขอพระราชทานชีวิตชีเปลือยไว้แล้วปล่อยไป ท้าวสุริโยทัยขอให้สุดสาครอยู่เมืองการะเวกต่อไปจนกว่าจะได้ข่าวพระอภัยมณี สุดสาครได้รู้จักกับนางเสาวคนธ์พระธิดาและได้เรียนวิชากลศึกต่างๆกับทิศาปาโมกข์ในเมืองการะเวกพร้อมด้วยเด็กน้อยห้าร้อยคน

No comments: