Sunday, October 08, 2006

เรื่องย่อพระอภัยมณี(12)

ด้านเมืองลังกานางละเวงวัณฬาและบุตรีตั้งครรภ์ครบสิบเดือนต่างก็คลอดโอรสด้วยกันทุกคน โอรสนางละเวงวัณฬาชื่อพระมังคลา ของนางรำภาสะหรีชื่อวลายุดา ของนางยุพาผกาชื่อวายุพัฒน์ และของนางสุลาลีวันชื่อหัสกันฯ พระมังคลาและวลายุดาเรียนอยู่กับบาทหลวง ส่วนวายุพัฒน์กับหัสกันฯเรียนอยู่กับพระปีโป
ฝ่ายหัสไชยอยู่เมืองการะเวกก็ได้แต่คร่ำครวญถึงนางสร้อยสุวรรณกับนางจันทร์สุดาธิดาพระอภัยมณีแห่งเมืองผลึก จึงทูลท้าวสุริโยทัยทำทีว่าคิดถึงและอยากขอออกติดตามถามข่าวนางเสาวคนธ์และสุดสาครที่หายเงียบไป ท้าวสุริโยทัยก็อนุญาตแต่กำชับว่าเมื่อได้พบกันห้ามบอกว่าพ่อให้ไปตามก็แล้วกัน หัสไชยดีใจรีบแล่นเรือไปเมืองผลึกในทันที
ส่วนทางกรุงรัตนาท้าวสุทัศน์มีพระชนมายุร้อยยี่สิบปีมิได้ทรงพระประชวรใดๆ จู่ๆก็เสด็จสวรรคต และพระมเหสีปทุมเกสรทรงเศร้าโศกเสด็จสวรรคตตามไป พระวงศาข้าเฝ้าได้จัดตั้งพระบรมศพไว้แล้วให้มีอำมาตย์ถือสารไปทูลเรื่องแก่พระอภัย -มณี กับศรีสุวรรณ พระอภัย -มณี ให้นางสุวรรณมาลี หัสไชย และสองธิดาอยู่รักษาเมืองผลึก พระองค์กับสินสมุทเดินทางเรือรีบมาใช้เวลาเจ็ดเดือนจึงถึงกรุงรัตนาเพื่อจัดการพระศพของพระบิดา - พระมารดา
ทางด้านเมืองลังกานางละเวงปรึกษาพระบาทหลวงเพื่อหาวันดีที่จะอภิเษกพระมังคลาขึ้นครองราชสมบัติ ให้วลายุดาเป็นอุปราช วายุพัฒน์เป็นฝ่ายขวา และหัสกันฯ เป็นฝ่ายซ้าย เพราะทั้งสี่พระองค์เจริญพระชันษาได้สิบห้าปีแล้ว บาทหลวงบอกวันดีให้แล้ว จึงแนะว่าให้มีสารไปเมืองการะเวกขอโคตรเพชรคืน นางละเวงเกรงว่าจะเป็นเรื่องวิวาทบาดหมางกันเพราะให้เขาไปแล้ว เมื่อลับหลังนางละเวง พระมังคลาจึงขอให้บาทหลวงเล่าเรื่องเบื้องหลังต่างๆให้ฟัง บาทหลวงก็เล่าตั้งแต่เจ้ากรุงลังกาและพระเจ้าลุงอุศเรนเป็นคู่หมั้นนางสุวรรณมาลีเมืองผลึก เกิดรบพุ่งกันจนพระอภัยมณีได้กับนางละเวงอยู่เมืองลังกา นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชรเกิดแผ่นดินไหว เมื่อพระมังคลาได้ครองเมืองลังกาแล้วให้คิดเอาโคตรเพชรคืนแต่อย่าไปปรึกษานางละเวง เพราะนางจะว่าบาทหลวงเป็นคนยุแยง ขอให้ค่อยๆสะสมฝึกหัดทหารและหาคนดีมีวิชาการไว้ใช้ในราชการ การรบเมืองผลึกนั้นเป็นศึกใหญ่ ให้หาอ้ายย่องตอดยอดทหารมาเลี้ยงไว้ด้วย การเอาชนะศึกให้เสร็จเด็ดขาดจะต้องกล้าหาญกำจัดเสี้ยนหนามให้หมดสิ้น พระมังคลาก็รับว่าจะทำตาม
นางละเวงอภิเษกพระมังคลาและหลานๆตามกำหนดวันดีที่บาทหลวงบอกไว้จนเสร็จการ พระมังคลาจึงคิดการศึกเริ่มจากสร้างซ่อมป้อมปราการต่างๆ ปรึกษาเตรียมการและแต่งตั้งให้พระน้องออกไปปกครองดูแลฝึกหัดจัดทหารตามป้อมเมือง รวมทั้งแต่งสารรวบรวมคนดีมีวิชาห้าสิบประเภทเข้ามาเป็นพวก โดยพระมังคลาเองก็เฝ้าคร่ำเคร่งเร่งฝึกทหาร ด้านหัสกันซึ่งอยู่ด่านด้านนอกที่สุดก็ให้เรือออกตระเวนสอดแนมทั่วมหาสมุทร จึงรู้ว่านางเสาวคนธ์หนีจากเมืองทิ้งการอภิเษก สุดสาครไปตามก็หายไป ทางด้านเมืองผลึกและรมจักรก็ยกไปทำศพเจ้ากรุงรัตนา ยังเหลือเพียงนางสุวรรณมาลีเป็นผู้รักเมืองผลึกเท่านั้น
พระมังคลาเห็นเป็นทีจะทำศึกได้แล้ว จึงเข้าทูลลานางละเวงแจ้งว่าจะไปตรวจด่าน ในระหว่างทางเกิดอภินิหารย์ฟ้าผ่าลงมาทำให้พระมังคลาได้คนเก่งมีวิชาคือนางสุนี พระมังคลาตรวจด่านต่างๆด้วยความพึงพอพระทัยเป็นอันมาก จึงปรึกษาจะทำสงครามชิงโคตรเพชรจากเมืองการะเวกคืนมา มีเสนาผู้เฒ่าทัดทานว่ากรุงการเวกเป็นเมืองใหญ่ มีไพร่พลมาก มีราชครูผู้วิเศษทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์มีเวทมนต์ดลคาถา เป็นแหล่งทหารเสือกล้าหาญสู้รบถึงหลบฝนได้ ส่วนโคตรเพชรนางเสาวคนธ์ก็ได้ขอจากพระมารดาแล้ว การรบเมืองการะเวกเมืองเดียวจะกระเทือนถึงเมืองผลึก รมจักรยากแก่การเอาชนะได้ หัสกันไม่เห็นด้วยและว่าความเห็นของอำมาตย์เป็นความขลาดกลัวเห็นแก่ความสุขสำราญส่วนตัว พระมังคลาถูกบาทหลวงยุแยงอยู่แล้วก็เห็นด้วยกับหัสกัน จึงให้วายุพัฒน์กับหัสกันยกทัพเรือไปเอาโคตรเพชรคืน
ทางเมืองการะเวกมีแต่ท้าวสุริโยทัยกับพระมเหสี ส่วนบุตรีเสาวคนธ์สุดสาครกับหัสไชยก็ไม่อยู่ ตกกลางคืนท้าวสุริโยทัยฝันร้ายให้ทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ทำนายว่าจะมีศึกมาติดพันเผาเมืองทางด้านใต้ ฝูงสัตว์สิงห์หญิงชายจะล้มตาย แต่พระโอรสพระธิดาจะกลับมารบชนะข้าศึก ฝันร้ายนี้ต้องทำการสะเดาะเคราะห์ชำระพระชะตาให้ความร้ายคลายลง ทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์พระเวทขลังก็ทำพิธีคุ้มครองเมืองและสะเดาะพระเคราะห์ ตระเตรียมทหารไว้รับศึกจนครบถ้วน
ด้านวายุพัฒน์หัสกันยกมาถึงก็เข้าตีเมืองการะเวกก็ตีไม่ได้ เพราะเวทมนต์คุ้มเมือง และฝนมนต์ของทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์จนต้องแก้ด้วยเอาเลือดเป็ดไก่โคกระบือสาดรอบเมืองแก้อาถรรพ์ แต่ก็สู้ทหารรักษาเมืองไม่ได้ จึงไปขุดเอาโคตรเพชรและเก็บเพชรที่เกิดใหม่เป็นอันมากถอยทัพกลับไป เจ้าเมืองการะเวกเห็นทัพวายุพัฒน์หัสกันล่าถอยไปแล้ว ก็รีบให้แต่งสารไปแจ้งแก่พระอภัยมณี
พระมังคลาเจ้าเมืองลังกาพอใจมากที่วายุพัฒน์กับหัสกันไปตีเมืองการะเวกและเอาโคตรเพชรกลับคืนมาได้ ทั้งได้กำชับว่าอย่าบอกให้พระชนนีรู้ ให้อำมาตย์แอบเอาไปไว้ที่เดิม แต่พอเอาโคตรเพชรฝังลงแผ่นดินก็เกิดอาเพทแผ่นดินไหวขึ้นมาอีก ทำให้นางละเวงรู้สึกประหลาดใจจึงไปถามบาทหลวง บาทหลวงแกล้งพูดเฉไฉว่าผัวของนางละเวงจะกลับมา แต่นางละเวงก็ยังไม่หายสงสัยจึงเรียกบุตรีเลี้ยงทั้งสามนางมาถาม นางยุพาผกาทำนายว่าจะเกิดศึกต่อสู้กันโกลาหลขึ้นตั้งแต่ต้นปีเถาะ นางละเวงว่าแล้วจะแก้ไขอย่างไรจึงจะดี นางยุพาผกาว่าต้องสะเดาะเคราะห์ด้วยการบัตรพลีและให้ทุกคนตั้งอยู่ในศีลสัตย์ตลอดปี นางละเวงบอกว่าน่าจะทำไม่ได้ เพราะชาวบ้านคงไม่เอาด้วย นางรำภาสะหรีอ้างคัมภีร์ไตรดายุคว่าอะไรจะเกิดมันก็เกิดจะคิดแก้ไขอย่างไรก็คงไม่ได้ เหมือนอยู่ใต้ฟ้าจะหนีฝนก็คงหนีไม่พ้น นางละเวงจึงว่าถ้าอย่างนั้นก็ทำหนังสือไปเตือนสติพระมังคลาให้ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมบ้างเพื่อเป็นการรั้งเอาไว้
ด้านเสนาเมืองการะเวกถือสารนานเดือนเศษจึงถึงเมืองผลึก นางสุวรรณมาลีอ่านสารแล้วก็ตกใจ ที่ว่านางเสาวคนธ์ลักโคตรเพชรมานั้นไม่เป็นความจริง ที่จริงนางละเวงอนุญาตให้มาต่างหาก หัสไชยยังอยู่ในเมืองผลึกก็แค้นใจอยากจะยกทหารออกไปตีเมืองลังกาตอบแทนโดยเร็วแต่นางสุวรรณมาลีห้ามไว้ ให้ใจเย็นๆคอยพระอภัยมณี สินสมุท และศรีสุวรรณกลับมาจากกรุงรัตนาก่อน นางสุวรรณมาลีตอบสารให้อำมาตย์และหัสไชยถือไปถึงเจ้าเมืองการะเวก ทางเมืองการะเวกเห็นชอบที่จะรอดูว่าพระอภัยมณีจะจัดการอย่างไรก่อน ถ้าทางพระอภัยมณีไม่จัดการให้ยุติธรรมจึงยกทัพไปรบเมืองลังกาด้วยตนเอง ตอนนี้ให้คนปลอมตัวลอบเข้าไปเมืองลังกาสืบข่าว

No comments: