Sunday, October 08, 2006

เรื่องย่อพระอภัยมณี(14)

ส่วนหัสไชยอยู่เมืองการะเวกรู้ข่าวว่านางสุวรรณมาลีกับพระบุตรีถูกพวกลังกาจับไป ก็ร้อนใจขออนุญาตพระบิดายกไปรบเมืองลังกา ซึ่งท้าวสุริโยทัยก็อนุญาตแต่เตือนว่าอย่าประมาทในการสงคราม หัสไชยเร่งรีบยกไป พอเข้าเขตเมืองลังกาก็ยกเข้าตีในทันที การรบในวันแรกฝ่ายลังกาแตกพ่ายเสียหายมาก พระมังคลาจึงปรึกษาวางแผนการรบใหม่ เมื่อเปิดศึกรบวันที่สองต่างก็รู้กลการศึกซึ่งกันและกัน พระมังคลาคิดกลศึกเผาเรือหัสไชยแตกหนีขึ้นบนฝั่งขาดเสบียงอาหาร ทัพเมืองการะเวกจึงคิดการเข้าปล้นค่ายฝรั่งในกลางคืนได้สู้รบกันเป็นสามารถ พอตกสายทัพของสุดสาคร นางเสาวคนธ์ และวาโหมก็ยกมาถึงก็เข้าช่วยกองทัพของพระหัสไชยตีทัพเมืองลังกาแตก ยึดได้ป้อมชายน้ำและเสบียงอาหาร เมื่อสุดสาคร นางเสาวคนธ์พบกับหัสไชยสอบถามเรื่องราวต่างๆกันแล้ว นางเสาวคนธ์แนะว่าการรบคราวนี้เป็นการรบเกี่ยวเนื่องกับญาติ ควรจะรอทางพระอภัยมณีกับศรีสุวรรณก่อนว่าจะโปรดอย่างไรเพื่อไม่ให้ขาดทางไมตรีกัน แต่หัสไชยบอกว่าพวกลังกาไม่ใช่เผาเมืองการะเวกเท่านั้นยังยกไปตีเมืองผลึกและเมืองรมจักรจับเอานางสุวรรณมาลี กับบุตรีทั้งสองนางและท้าวทศวงศ์ พระมเหสี พร้อมนางกำนัลเมืองรมจักรมากักขังด้วย จะรอช้าเนิ่นนานไปเกรงว่าตัวประกันจะยิ่งบอบช้ำมากขึ้น นางเสาวคนธ์จึงบอกว่าถ้าเช่นนั้นจะขึ้นไปเจรจากับพระมังคลาให้คืนนางสร้อยสุวรรณและนางจันทร์สุดาดู ถ้าไม่ยอมเราจึงค่อยสู้รบ ขอให้ทำสารแจ้งข่าวไปทางเมืองการะเวกว่านางเสาวคนธ์กับสุดสาครได้เข้ามาสมทบช่วยรบแล้ว ขอให้เมืองผลึกช่วยส่งเสบียงเลี้ยงทหารด้วย
ตกกลางคืนพระมังคลาปรึกษาทัพลอบให้ทหารเจ้าละมานดำน้ำเข้าไปลอบเผาเรือ เกิดสู้รบกันขึ้น จนฝ่ายข้างพระหัสไชยเสียป้อมชายน้ำที่ยึดได้ นางเสาวคนธ์จึงให้ทหารปลอมเป็นทหารฝรั่งแทรกเข้าไปอยู่ในกองทัพของพระมังคลาเพื่อตีเอาด่านเมืองใหม่ แล้วเตรียมทัพแบ่งเป็นห้าสิบสองกองกับทหารเมืองวาหุโลมเข้าโจมตี ให้สุดสาครไปดักสกัดด้านชายเขาคอยจับพระมังคลาที่จะหนีไปทางนั้น เมื่อการรบได้เริ่มขึ้นทหารของนางเสาวคนธ์หัสไชยก็ตีทัพพระมังคลาแตกพ่ายไปเข้ายึดป้อมเมืองใหม่ได้สำเร็จ ส่วนสุดสาครจับพระมังคลาไม่ได้ เพราะตราราหูและมีนางสุนีช่วยพาพระมังคลาหนีไป สุดสาครขับม้ามาพบกับวายุพัฒน์และหัสกันฯก็รู้ว่าเป็นหลานและเป็นลูกของตนเกิดต่อสู้กัน ฝ่ายวายุพัฒน์และหัสกันสู้ไม่ได้ก็แตกทัพหนีไป สุดสาครเข้าเมืองใหม่พบกับเสาวคนธ์กับหัสไชยเข้าเมืองได้ก่อนแล้ว
ฝ่ายวายุพัฒน์และหัสกันลนลานหนีตายจากสุดสาครด้นดั้นไปด่านกลาง ส่วนนางสุนีพาพระมังคลาหนีเข้าป่าไปไม่รู้ทิศทาง พระมังคลาคิดเอานางสุนีเป็นสนมเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยให้รอดตาย นางสุนีบอกว่าตนเองเป็นเพียงผู้ที่พระมหาสุราลัยให้มาคอยช่วยพระมังคลาเท่านั้น หากได้เสียกับพระมังคลาแล้วจะไม่มีฤทธิ์ใดๆอีก นางสุนีพาพระมังคลามาด่านป่าตาล พระมังคลาปรึกษาทหารทำการศึกต่อไป
ไม่มีผู้ใดกล้าออกความเห็น วลายุดาแนะให้ถามบาทหลวงก่อนเพราะท่านบาทหลวงเคยรบมาแต่ครั้งก่อน พระมังคลาก็เห็นด้วย จึงเขียนสารไปปรึกษาบาทหลวงและให้บังอลูลอบไปเกณฑ์ทหารเพิ่มเติมอีกยี่สิบหมื่นพร้อมอาวุธยุทธภัณฑ์ พอบาทหลวงได้รับสารก็บอกว่าพระมังคลาไม่ทำตามคำสอนที่ให้แต่งสารไปขอโคตรเพชรก่อน รีบไปทำสงครามชิงเอามาจึงเกิดศึกใหญ่มาติดเมือง เมื่อดูตำราทวาทศราศรีแล้วบาทหลวงก็เขียนแนะวิธีให้ม้าใช้เอาไปถวายพระมังคลา
ด้านบังอลูลอบไปสั่งให้กรมวังเกณฑ์ทหาร ความจึงรู้ไปถึงหูของนางรำภาสะหรี นางยุพาผกาและนางสุลาลีวัน ทั้งสามนางรีบไปเฝ้านางละเวง นางละเวงเรียกบังอลูมาถาม เดิมบังอลูกลัวขัดรับสั่งพระมังคลาก็ทูลเท็จจนนางละเวงต้องให้สบถปดไม่ได้จึงได้รู้เรื่องราวความจริงทั้งหมด นางละเวงและสามบุตรีจึงยกออกมาด่านดงตาล พระมังคลากับพวกหลีกเลี่ยงไม่ยอมพบนางละเวง นางละเวงจึงช่วยนางสุวรรณมาลี พระธิดา ท้าวทศวงศ์ พระมเหสีและนางกำนัลไปเมืองลังกาด้วยความลำบากยากเย็น เพราะต้องสู้รบกับทหารของพระมังคลาที่ถือรับสั่งไม่ยอมรับอำนาจของนางละเวง เมื่อมาถึงเมืองลังกาแล้วนางละเวงจัดการดูแลให้ทุกพระองค์เป็นอยู่อย่างสมพระเกียรติ แล้วพากันไปต่อว่าพระสังฆราชบาทหลวงว่าไม่ควรยุยงให้ไปล่วงเกินเผ่าพงศ์วงศ์วาน พระสังฆราชบาทหลวงก็โต้แย้งว่าไม่ได้ยุยงเลยเพียงแต่เล่าเรื่องตามความเป็นจริงให้ฟังเท่านั้น ฝ่ายพระมังคลาเตรียมพร้อมตั้งค่ายทศเทวาตามตำราของบาทหลวง เพื่อรับศึกหวังใช้ร้อยแปดค่ายเอาชัยชนะข้าศึกขั้นเด็ดขาด
พระอภัยมณีและศรีสุวรรณพอเสร็จการทำศพพระเจ้ากรุงรัตนาก็ได้รับข่าวจากทหารถือสารมาจากเมืองผลึก เมืองรัตนายังไม่พระเจ้าแผ่นดินดูแล จึงยกให้แก่ สินสมุทกับนางอรุณรัศมี แต่สินสมุทต้องไปราชการสงครามเมืองลังกา จึงให้อำมาตย์รักษาเมืองไว้ก่อน พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณแยกย้ายกันไปเมืองผลึก, รมจักรเพื่อเตรียมทหารและยุทธภัณฑ์ แล้วต่างรีบยกไปป้อมเมืองใหม่ สุดสาครและพระน้องทั้งสององค์ออกมารับเสด็จทั้งสองพระองค์และสินสมุท เล่ารายละเอียดถวายให้ทรงทราบ พระอภัยมณีปรึกษาการศึกว่าควรจะให้ทหารถือสารไปถามทางฝ่ายพระมังคลาดูท่าทีเสียก่อน หากดื้อดึงไม่นับถือเผ่าพงศ์ค่อยยกออกไปสู้รบ ซึ่งศรีสุวรรณก็เห็นชอบด้วย เมื่อพระมังคลาตอบสารมาไม่ตรงตามความจริงพร้อมทำตราชั่งใส่มาให้เห็นว่าฝ่ายพระอภัยมณีไม่มีความเที่ยงตรงด้วย ก็รู้แน่ว่าฝ่ายพระมังคลาไม่ได้นับถือเรื่องเผ่าพงศ์ใดๆ คงต้องรบสู้กันแน่แล้ว ขัดอยู่ว่านางสุวรรณมาลีพระธิดา และท้าวทศวงศ์ฯยังอยู่ในมือของข้าศึกก็เกรงว่าจะเป็นอันตราย และตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาขังอยู่ที่ไหน ศรีสุวรรณแต่งทหารสามสิบนายไปจับทหารฝรั่งมาถาม ก็รู้ความจริงว่านางละเวงได้ช่วยตัวประกันไปไว้เมืองลังกาแล้ว พระอภัยมณีจึงให้แต่งสารแจ้งไปทางนางละเวงและชักชวนให้ยกมาช่วยปราบพระมังคลา หัสไชยเป็นโรครักเพราะคิดถึงนางสร้อยสุวรรณและนางจันทร์สุดาอยู่แล้ว รีบอาสาถือจดหมายไปเมืองลังกาทางด่านสะพานยนต์ นางเสาวคนธ์บอกให้หัสไชยเอาวาโหมไปช่วยด้วย
เมื่อหัสไชยกับวาโหมเดินทัพไปแล้ว ศรีสุวรรณจัดให้พระกฤษณา และเหล่าลูกพราหมณ์สามนายเป็นทัพหน้าแล้วพระองค์ทรงรถเป็นทัพหลัง ส่วนพระอภัยมณีให้สุดสาครกับนางเสาวคนธ์เป็นทัพหน้าและให้สินสมุทเป็นแม่ทัพยกล่วงหน้าไปวันหนึ่งแล้วพระอภัยมณีจึงยกทัพใหญ่ตามไปเมืองป่าตาล
หัสไชยกับวาโหมยกมาถึงเขตสะพานยนต์ก็ตีทหารเมืองลังกาแตกพ่ายไป จึงตั้งรักษาด่านสะพานยนต์ไว้ คิดการให้วาโหมรบล่อไว้ส่วนหัสไชยจะรีบนำสารไปส่งกรุงลังกา ฝ่ายพระมังคลาให้วายุพัฒน์และวลายุดายกเป็นทัพหน้าไปตีด่านสะพานยนต์เพื่อมิให้ข้าศึกตีวกอ้อมหลัง พอมาถึงก็ปีนค่ายสู้รบกับทหารของหัสไชยกับวาโหม ทหารของวลายุดาและวายุพัฒน์แตกพ่ายสู้ไม่ได้ หัสไชยกับทหารห้าสิบนายจึงรีบเดินทางเอาสารไปส่งเมืองลังกา ส่วนทัพหน้าของพระอภัยมณีมีพระกฤษณากับหนุ่มสามพราหมณ์ และศรีสุวรรณยกไปถึงด่านดงตาลก็ให้เข้าโจมตี หลงเข้าไปติดกลค่ายทศเทวาของพระมังคลาทำให้หมดแรง และมองไม่เห็นอะไร ขณะนั้นพอดีวลายุดากับวายุพัฒน์พาทหารสามพันคนแตกทัพมาขอกำลังไปช่วย พระมังคลาคิดว่าทางด่านดงตาลข้าศึกติดค่ายกลมากมายและจะตายภายในเจ็ดวันคงจะชนะศึกอย่างแน่นอน จึงให้หัสกันอยู่ดูแลค่ายดงตาลและปล่อยให้ข้าศึกเข้ามาติดค่ายตายให้หมดทั้งกองทัพ ส่วนพระมังคลาแบ่งไพร่พลได้สี่หมื่นยกไปช่วยวลายุดากับวายุพัฒน์ตีด่านสะพานยนต์ในคืนนั้น พอไปถึงก็ให้รอผู้วิเศษทำกลศึกอย่าเพิ่งออกรบ ส่วนทัพของสินสมุท สุดสาครและนางเสาวคนธ์ไปถึงก็เข้าโจมตีด่านดงตาลติดค่ายกลเช่นเดียวกัน แต่ตัวนายไม่เป็นอะไร ปรึกษากันแก้ค่ายกลด้วยเอาเลือดสาดรอบค่ายแก้อาถรรพ์ช่วยทุกคนที่ติดค่ายกลรอดออกมาได้ ครั้นทัพพระอภัยมณียกมาถึงทรงสรรเสริญนางเสาวคนธ์เป็นอันมากและให้ตั้งค่ายริมแนวป่าคอยฟังทางเมืองลังกาว่าจะทำอย่างไร

No comments: